Myotherapy (ไมโอเทอร์ราพี): ศาสตร์การจัดการความปวดและการเคลื่อนไหวแบบองค์รวม เพื่อนักกีฬาและคนรักสุขภาพ
Myotherapy (ไมโอเทอร์ราพี): ศาสตร์การจัดการความปวดและการเคลื่อนไหวแบบองค์รวม เพื่อนักกีฬาและคนรักสุขภาพ
Myotherapy (ไมโอเทอร์ราพี) คือ "การบำบัดกล้ามเนื้อ" แต่ในทางปฏิบัติ Myotherapy ลึกซึ้งกว่าการนวดผ่อนคลายทั่วไป มันคือระบบการดูแลสุขภาพที่เน้นการตรวจประเมิน บำบัด และฟื้นฟูความผิดปกติของระบบเนื้อเยื่ออ่อน (Soft Tissue) และระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal System) เพื่อลดความปวดและคืนศักยภาพการเคลื่อนไหวให้ร่างกาย
Myotherapy ในรูปแบบ "ลูกผสม" (Tribrid Approach)
ในรูปแบบที่ดึงจุดเด่นของ 3 ศาสตร์มาผสานกัน ได้แก่ วิทยาศาสตร์การกีฬา, การนวดแบบตะวันตก (Sports/Deep Tissue), และ ภูมิปัญญาไทย (Thai Massage) เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนตั้งแต่นักกีฬามืออาชีพไปจนถึงคนทำงาน
สามเสาหลักของการบูรณาการ (The 3 Pillars of Integration): Myotherapy แบบองค์รวม ด้วย 3 ศาสตร์หลักที่ทำงานสอดประสานกัน
เสาหลักที่ 1: วิทยาศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์การกีฬา (The Brain)
ทำหน้าที่เป็น "สมอง" ในการวิเคราะห์
Biomechanics (ชีวกลศาสตร์): วิเคราะห์ท่าทางการเคลื่อนไหว (Movement Analysis) เพื่อหาสาเหตุของอาการเจ็บ เช่น เจ็บเข่าเพราะวางเท้าผิด หรือเจ็บไหล่เพราะกล้ามเนื้อหลังอ่อนแรง
Anatomy & Physiology: เข้าใจกลไกการบาดเจ็บและการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ เพื่อวางแผนการรักษาที่ไม่ขัดขวางกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย
Strength Training & Stretching: การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มความทนทานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และการยืดเหยียดเป็นเทคนิคที่สำคัญในการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อและกล้ามเนื้อให้พร้อมในการใช้งานได้อย่างเต็มที่
เสาหลักที่ 2: การนวดทางการกีฬาและกล้ามเนื้อมัดลึก (The Precision)
ทำหน้าที่เป็น "เครื่องมือ" ในการจัดการปัญหาเฉพาะจุด
Sports Massage: เทคนิคการรีดเลือดและน้ำเหลืองเพื่อลดบวม (Flush) และเร่งการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย
Deep Tissue Massage: การลงน้ำหนักลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อเพื่อสลายพังผืด (Adhesions) และคลายปมกล้ามเนื้อ (Trigger Points)
Lymphatic Drainage Massage: การนวดระบายน้ำเหลืองช่วยบรรเทาอาการบวมที่เกิดขึ้นเมื่อระบบน้ำเหลืองอุดตัน เพื่อเคลื่อนย้ายของเหลวส่วนเกินออกจากเนื้อเยื่อไปต่อมน้ำเหลืองเพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย
เสาหลักที่ 3: ศาสตร์นวดแผนไทย (The Flow) ทำหน้าที่เป็น "ความยืดหยุ่นและสมดุล"
Passive Stretching: การยืดเหยียดแบบถูกกระทำ ซึ่งช่วยเพิ่มองศาการเคลื่อนไหว (ROM) ได้ดีกว่าการยืดเอง
เส้นประธานสิบ (Energy 10 Lines): การนวดตามแนวเส้นลมปราณเพื่อกระตุ้นระบบประสาทและการไหลเวียนโลหิต ซึ่งสอดคล้องกับแนวของ Myofascial Lines (แนวพังผืด) ในทางตะวันตก
การกดจุดไทย (Energy Point): คือการทำให้การไหลเวียนโลหิตและสัญญาณประสาททำงานได้สมบูรณ์ ด้วยการกดจุดในตำแหน่งที่มีความสัมพันธ์กับระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาทและระบบอื่น ๆ ซึ่งเทียบได้กับการฟื้นฟูทางแผนปัจจุบัน
การกรอกเลือด/การครอบแก้ว แบบแห้ง (Dry Cupping) เทคนิคแผนโบราณที่ใช้ถ้วยแก้วหรือพลาสติกวางบนผิวหนังแล้วดูดอากาศออก (ใช้ความร้อน หรือปั๊มสุญญากาศ) ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อเฉพาะจุด
วงจรการดูแลสุขภาพ: ป้องกัน-บำบัด-รักษา-ฟื้นฟู
Myotherapy เข้ามามีบทบาทในทุกช่วงเวลาของชีวิตนักกีฬา:
1. การป้องกัน (Prevention)
ใช้การนวดแผนไทยเพื่อยืดเหยียดโครงสร้าง และใช้ Sports Massage เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัวสะสม (Hypertonicity) ก่อนที่จะเกิดการฉีกขาด
ตัวอย่าง: นักวิ่งมาราธอนรับการนวดคลายกล้ามเนื้อน่องและยืดเส้นเอ็นร้อยหวายก่อนเริ่มตารางซ้อมหนัก
2. การบำบัด (Therapy)
จัดการกับอาการเจ็บปวดระยะเริ่มแรก (Sub-acute) โดยใช้เทคนิค Myofascial Release (คลายพังผืด) เพื่อลดแรงตึงเครียดที่กระทำต่อข้อต่อ
ตัวอย่าง: การกดจุด Trigger Point เพื่อหยุดอาการปวดร้าวลงแขน
3. การรักษา (Cure/Treatment)
เน้นการจัดการที่ต้นเหตุ (Root Cause) เช่น การสลายแผลเป็นในกล้ามเนื้อ (Scar Tissue) ที่ทำให้เจ็บเรื้อรัง และปรับโครงสร้างร่างกายให้สมดุล
ตัวอย่าง: การรักษาอาการไหล่ติด โดยการนวดเจาะลึกที่กล้ามเนื้อ Rotator Cuff ผสมกับการดัดดึงข้อต่อแบบไทย
4. การฟื้นฟู (Rehabilitation)
ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาออกแบบ "Corrective Exercise" เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนที่อ่อนแอ ให้กลับมาทำงานได้ปกติ
ตัวอย่าง: การฝึกแกนกลางลำตัว (Core) หลังหายจากอาการปวดหลัง
ประโยชน์และประสิทธิภาพ (Benefits & Efficacy)
1. ความแม่นยำสูง (Precision): การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬานำทาง ทำให้การนวดไม่ใช่นวดไปเรื่อย ๆ แต่เป็นการนวดแบบตรงจุดที่มีปัญหา
2. ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ (Recurrence Prevention): เมื่อรู้สาเหตุทางชีวกลศาสตร์และแก้ไขที่ต้นเหตุ อาการบาดเจ็บเดิม ๆ จะไม่กลับมา
3. เพิ่มสมรรถภาพ (Performance Enhancement): กล้ามเนื้อที่ไม่มีปม (Knots) และมีความยืดหยุ่นดี จะหดตัวได้แรงขึ้นและรวดเร็วขึ้น ทำให้นักกีฬาวิ่งได้เร็วขึ้น กระโดดได้สูงขึ้น
4. การฟื้นตัวที่รวดเร็ว (Accelerated Recovery): การผสมผสานเทคนิคตะวันตกและตะวันออกช่วยเร่งกระบวนการขจัดของเสียและการซ่อมแซมเซลล์
Myotherapy จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น "ทางรอด" และ "ตัวช่วยสำคัญ" สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ร่างกายอย่างเต็มประสิทธิภาพและยาวนาน
บริการที่เกี่ยวข้อง
นวดสวีดิช (Swedish Massage) (นวดน้ำมัน)
การนวดสวีดิช (Swedish Massage) ถือเป็นรากฐานของการนวดแบบตะวันตกและเป็นหนึ่งในรูปแบบการนวดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก เนื่องจากเน้นความผ่อนคลายเป็นหลัก แต่ก็ให้ประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้านอย่างน่าทึ่ง
นวดสวีดิช (Swedish Massage) (นวดน้ำมัน)
การนวดสวีดิช (Swedish Massage) ถือเป็นรากฐานของการนวดแบบตะวันตกและเป็นหนึ่งในรูปแบบการนวดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก เนื่องจากเน้นความผ่อนคลายเป็นหลัก แต่ก็ให้ประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้านอย่างน่าทึ่ง
นวดสวีดิช (Swedish Massage) (นวดน้ำมัน)
การนวดสวีดิช (Swedish Massage) ถือเป็นรากฐานของการนวดแบบตะวันตกและเป็นหนึ่งในรูปแบบการนวดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก เนื่องจากเน้นความผ่อนคลายเป็นหลัก แต่ก็ให้ประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้านอย่างน่าทึ่ง
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
วันทำการ: จันทร์–อาทิตย์ เวลา 9:00 น.–20:00 น.
Tel: 080-279-5058
Line OA: @222udjvw
ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่น ๆ ได้ตามช่องทางโซเชียลมีเดียด้านล่าง