อาการปวดสะโพก (Hip Pain) เป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญและบั่นทอนคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก ตั้งแต่อาการปวดตึงเล็กน้อยไปจนถึงอาการปวดรุนแรงที่กระทบต่อการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน ลุกนั่ง หรือการนอน เราจะพาไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการปวดสะโพก และแนวทางการบำบัดฟื้นฟูแบบองค์รวมที่ผสมผสานภูมิปัญญาตะวันออกและวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าไว้ด้วยกัน
ปัญหาและที่มาของอาการปวดสะโพก
อาการปวดสะโพกไม่ได้มีสาเหตุมาจากข้อสะโพกโดยตรงเสมอไป แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาทบริเวณรอบ ๆ ข้อสะโพกได้เช่นกัน สาเหตุหลัก ๆ สามารถแบ่งได้ ดังนี้:
กล้ามเนื้ออักเสบและตึงตัว (Muscle Strain and Tightness): เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกและก้นมากเกิน หรืออยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น นั่งไขว่ห้าง หรือการออกกำลังกายอย่างหักโหม กล้ามเนื้อที่มักมีปัญหาคือ กล้ามเนื้อกลุ่มสะโพก (Gluteal Muscles) และ กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส (Piriformis Muscle) ซึ่งเมื่อตึงตัวอาจไปกดทับเส้นประสาทไซอาติก (Sciatic Nerve) ทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงขาคล้ายอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้
ข้อสะโพกเสื่อม (Hip Osteoarthritis): เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนที่บุอยู่บริเวณผิวข้อต่อ ทำให้กระดูกเสียดสีกันโดยตรง มักพบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป โดยจะมีอาการปวดลึก ๆ ในข้อสะโพก ขยับลำบาก และอาจมีเสียงดังกรอบแกรบขณะเคลื่อนไหว
เอ็นและถุงน้ำรอบข้อสะโพกอักเสบ (Tendonitis and Bursitis): เกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นหรือถุงน้ำ (Bursa) ที่ช่วยลดแรงเสียดสีรอบข้อสะโพก มักเกิดจากการใช้งานซ้ำๆ หรือการบาดเจ็บ ทำให้มีอาการปวดบริเวณด้านข้างของสะโพก
ปัญหาจากโครงสร้างอื่น: อาการปวดสะโพกอาจมีต้นเหตุมาจากบริเวณหลังส่วนล่าง เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท แล้วส่งความเจ็บปวดร้าวมาที่บริเวณสะโพกได้เช่นกัน
โดยสรุปแล้ว การจัดการกับอาการปวดสะโพกอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจในสาเหตุที่แท้จริง การผสมผสานระหว่างศาสตร์นวดแผนไทยเพื่อผ่อนคลายและปรับสมดุล เข้ากับการนวดกล้ามเนื้อมัดลึกและเวชศาสตร์การกีฬาเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงลึกและสร้างความแข็งแรง ถือเป็นแนวทางแบบองค์รวมที่สมบูรณ์และปราศจากความเจ็บปวดอีกครั้ง
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
วันทำการ: จันทร์–อาทิตย์ เวลา 9:00 น.–20:00 น.
Tel: 080-279-5058
Line OA: @222udjvw
ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่น ๆ ได้ตามช่องทางโซเชียลมีเดียด้านล่าง